ปัจจุบัน Rejuran เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางทั่ว Asia มีการพัฒนาริเริ่มมาจากทางเกาหลี วันนี้อยากชวนมาทำความรู้จักกันให้มากขึ้น กับเรื่องที่คุณอาจยังไม่รู้เกี่ยวกับ Rejuran
สรุป Highlight เนื้อหาสำคัญ
- Rejuran มีส่วนประกอบหลักมาจาก DNA ปลาแซลมอน
- DNA ปลาแซลมอน และมนุษย์มีความคล้ายกัน จึงปลอดภัย
- ฉีด PN เพื่อหวังผลในการฟื้นฟูโครงสร้างผิวชั้นหนังแท้
- ควรฉีดต่อเนือง ทุก 3-4 สัปดาห์ จะได้ผลลัพธ์ดีที่สุด
Rejuran มีที่มาจากไหน?
ตัวยาหลักคือ PN หรือ PolyNucleotides จาก DNA ของปลาแซลมอน ซึ่งเป็น Wild Salmon เลี้ยงในฟาร์มปิดที่เกาหลี ว่ายทวนน้ำ มีความแข็งแรง
แรกเริ่มมีการวิจัยมาใช้ตั้งแต่ปี 2009 โดยบริษัทวิจัยยา PharmaResearch ที่เกาหลี เริ่มใช้ในทางการแพทย์ สำหรับรักษาแผลไฟไหม้ รักษาอาการบาดเจ็บ หรือแม้แต่นำมาหยอดตา
โดยในปี 2014 ได้มีการพัฒนามาใช้ฉีดผิว เพื่อกระตุ้น Fibroblast Cell ให้ผิวชั้นหนังแท้มีความแข็งแรงขึ้น
PN ต่างจาก PDRN อย่างไร?
ทั้ง 2 อย่างนี้ มีที่มาเดียวกัน คือเป็นสารตั้งต้น จาก DNA ปลาแซลมอน แต่ PN จะมีการคงอยู่ที่ยาวนานกว่า จึงนิยมนำมาฉีดใต้ผิว เพื่อให้ระหว่างที่ PN คงอยู่ ผิวจะได้รับการฟื้นฟูโครงสร้างจากภายใน
ส่วน PDRN จะนิยมนำมาทำเป็นผลิตภัณฑ์ในการ ทาผิวจากภายนอก
ฉีด Rejuran ช่วยอะไรบ้าง?
- ฟื้นฟูผิวจากภายใน
- กระตุ้น Fibroblast Tissue
- ลดริ้วรอย เสริมความยืดหยุ่น
- ลดขนาดรูขุมขน ลดความมัน
- ปรับสมดุล ให้คุณภาพผิวดียิ่งขึ้น
นอกจากนี้ Rejuran ยังเหมาะกับผู้ที่มีผิวบาง แพ้ง่าย นำมาเสริมกับการทำเลเซอร์เพื่อให้ผิวมีคุณภาพดีขึ้นอย่างชัดเจน
ถ้าไม่ฉีด Rejuran ฉีดอะไรแทนดี?
อีกการรักษาที่มีมานานที่สุดในปัจจุบัน และใช้ทางการแพทย์มาก่อน Rejuran คือ Plasma Booster หรือ การสกัดเลือด เพื่อนำ Growth Factor มาฉีดเข้าผิว กระตุ้นการซ่อมสร้างผิวชั้น Fibroblast เช่นเดียวกัน
มีผลงานวิจัยที่ยาวนาน และมีวัตถุประสงค์เทียบเคียงกันกับ Rejuran คาดหวังผลได้ใกล้เคียงกัน และเว้นระยะเวลาการฉีดเท่ากัน ต่างกันที่ตัวสารตั้งต้น
จุดเด่นของ Plasma Booster
- เหมาะกับคนที่พักผ่อนเพียงพอ เพราะคุณภาพยามาจากเลือดของคนไข้เอง
- ได้ปริมาณยาเยอะ เพียงพอฉีดทั่วใบหน้าในครั้งเดียว
- ตัวยาระหว่างฉีด ไม่มีความแสบ
Rejuran ควรฉีดอย่างไร?
การฉีด Rejuran จะเป็นการฉีดผิวที่ Dermal Layer (ชั้นหนังแท้) โดย
- REJURAN 1 หลอด 2 CC แนะนำฉีดติดต่อกัน 4 เดือน และหลังจากนั้น สามารถดูแลต่อเนื่องได้ทุก ๆ 6-12 เดือน
- การฉีดลักษณะนี้ จะช่วยให้ Rejuran ออกฤทธิ์ได้สูงสุด ต่อเนื่องยาวนาน
ผิวของแต่ละบุคคลมีการตอบสนองต่อการรักษาที่แตกต่างกัน แนะนำให้พบแพทย์เพื่อทำความเข้าใจเบื้องต้นก่อนตัดสินใจเข้ารับการรักษานะคะ
ขอบคุณข้อมูลจาก : beauty.jivaka