ฝุ่น PM2.5 กลับมาอีกแล้ว! คันตามผิว สิวขึ้นยุบยิบ หน้าแห้งระคายเคืองช่วงนี้มีอาการเหล่านี้กันบ้างรึเปล่าค่ะ? รู้ไหมว่าฝุ่นตัวร้ายนี้ ไม่ได้ส่งผลกับปอดเราเท่านั้นแต่อนุภาคที่เล็กมากนี้ สามารถแทรกซึมผ่านผิวชั้นนอก เข้าไปถึงเซลล์ผิวเราเลยทีเดียว
ฝุ่น PM2.5 ส่งผลกับผิวอย่างไร?
มีข้อมูลงานวิจัยพบว่า ฝุ่นละออง pm2.5 สามารถทำลายเซลล์ผิวหนังกำพร้าของมนุษย์ได้ ก่อให้เกิดการอักเสบบริเวณผิวหนังที่มากขึ้น รวมถึงเกิดความผิดปกติกับกลไลป้องกันผิวหนัง จากสภาพแวดล้อมภายนอก
ผลกระทบแบบเฉียบพลัน มีผลให้เกิดการอักเสบบริเวณผิวหนังมากขึ้น เกิดผื่นแพ้ อาการคัน และระคายเคือง โดยเฉพาะคนไข้ที่มีอาการโรคผิวหนังเดิมอยู่แล้ว เช่น โรคภูมิแพ้ผิวหนัง ผื่นอักเสบ สะเก็ดเงิน สิว จะทำให้มีอาการกำเริบมากขึ้นได้ค่ะ
หากมีการสัมผัสฝุ่น pm2.5 เป็นเวลานานต่อเนื่อง จะส่งผลให้เกิดอนุมูลอิสระต่อเซลล์ผิวหนัง เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ผิวเสื่อมชราได้เร็วยิ่งขึ้น เกิดเป็นริ้วรอย และจุดด่างดำเพิ่มมากยิ่งขึ้น
นอกจาก PM2.5 แล้ว ควันบนท้องถนนจากไอเสียรถยนต์ มีผลเร่งความเสื่อมของเซลล์ได้เช่นกัน
ฝุ่น PM2.5 กับ สุขภาพปอด
องค์การอนามัยโลก (WHO) จัดให้ฝุ่น pm 2.5 อยู่ในกลุ่มสารก่อมะเร็ง เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ดังนั้น เมื่อต้องทำกิจกรรมนอกบ้าน ควรใส่ Mask เพื่อป้องกันการรับเอา pm2.5 ผ่านการหายใจโดยตรง
หน้ากาก N95 จะสามารถป้องกันฝุ่นได้ถึง 99% แต่ด้วยค่าใช้จ่ายที่สูง จึงมีการทดลองใช้หน้ากากอนามัย กับกระดาษทิชชู่ 1 แผ่น พับครึ่งซ้อนทับไว้ภายในจากการทดลองสามารถป้องกัน pm2.5 ได้ถึง 98% ทีเดียว
(ข้อมูลจาก คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์)
แนะนำให้ใช้ทิชชู่ 1 แผ่นพับครึ่งเท่านั้น หากใช้มากกว่า 1 แผ่น จะเกิดช่องว่างและทำให้ประสิทธิภาพในการป้องกันลดลง
ดังนั้น หน้ากากอนามัย นอกจากจะช่วยป้องกันการแพร่ระบาด Covid-19 ในตอนนี้ได้ ยังช่วยปกป้องเราจากฝุ่น pm2.5 นี้ไปพร้อมกันได้ด้วยค่ะ
ใช้ในกรณีไม่มีหน้ากาก N95 ชั่วคราว
3 วิธีดูแลสุขภาพในภาวะฝุ่นพิษ
1.รีบล้างหน้าเมื่อถึงบ้าน
เพื่อล้างเอาละอองฝุ่นที่ติดอยู่บนผิว รวมถึงเสื้อผ้าออกทันที ในส่วนของการล้างหน้า อาจเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ประเภท Cleansing oil หรือ Micellar water เพิ่มเติม เช็ดทำความสะอาดใบหน้า ก่อนการล้างหน้าตามปกติอีกครั้ง รวมถึงเลี่ยงการล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น เพราะจะทำให้ผิวแห้งและเกิดการระคายเคืองได้ง่ายค่ะ
หลังล้างหน้าควรเช็ด Toner เพื่อปรับสมดุลค่า PH ของผิวทุกครั้ง
2.อย่าขาดการบำรุงผิว
การทาครีมประเภท มอยส์เจอไรเซอร์ จะช่วยคงสมดุลให้ผิวชุ่มชื้น ลดการผลิตน้ำมันบนใบหน้า ทำให้ลดการสะสม และอุดตันของฝุ่น pm2.5 ลดลงส่งผลให้ลดโอกาสการอุดตัน และอักเสบของสิว รวมถึงการระคายเคืองผิวจากความแห้งกร้านที่เกิดจากฝุ่นได้ค่ะ
สภาวะฝุ่นละออง ทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองได้ง่าย ควรรักษาความชุ่มชื้นของผิวอย่างสม่ำเสมอ
3.ทานวิตามินเสริม หรืออาหารที่ดีต่อสุขภาพ
ดื่มน้ำให้มากขึ้น และทานอาหาร หรือผักผลไม้ที่มีวิตามิน C / วิตามิน E จะช่วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น และมีสารต้านอนุมูลอิสระ ซ่อมแซมผิวที่เสื่อมสภาพได้ค่ะ เมื่อเราดูแลร่างกายให้มีภูมิต้านทานที่ดีอยู่เสมอ จะช่วยป้องกันผลกระทบจากฝุ่นได้ในระยะยาว
ภูมิคุ้มกันจากภายในร่างกาย เกิดจากอาหารที่เรารับประทานในแต่ละวัน
สรุป การดูแลผิวในมลภาวะฝุ่นพิษ
ในวิถีชีวิตคนเมือง เราไม่สามารถเลี่ยงการเจอฝุ่น pm2.5 และมลภาวะทางอากาศได้อยู่แล้ว ทุกคนจึงจำเป็นต้องปรับตัว เพิ่มการดูแลสุขภาพกันให้มากขึ้น หากคุณมีคนใกล้ตัว เป็นกลุ่มเสี่ยง เช่น เด็กทารก ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีโรคประจำตัว ควรมีการดูแลอย่างใกล้ชิด หากมีอาการควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จาก กรมอนามัยกระทรวงสาธารสุข
