Collagen (คอลลาเจน) เปรียบเสมือนโครงสร้างหลักที่ค้ำจุนผิวพรรณให้เต่งตึง เรียบเนียน ทำให้ผิวดูอิ่มฟู ดูมีชีวิตชีวา เมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายผลิตคอลลาเจนได้น้อยลง จึงส่งผลให้เกิดริ้วรอย รอยเหี่ยวย่น ผิวหย่อนคล้อย สูญเสียความยืดหยุ่น
คอลลาเจนกับโครงสร้างผิว
คอลลาเจน เป็นส่วนประกอบของผิวหนังถึง ร้อยละ 75 เป็นโครงสร้างหลักของผิวชั้นหนังแท้ (Dermis) ทำหน้าที่เสมือนตาข่ายค้ำจุนผิว เชื่อมเนื้อเยื่อต่างๆ เข้าด้วยกัน ประกอบไปด้วยกรดอะมิโนหลายชนิด
คอลลาเจนมีบทบาทสำคัญต่อสุขภาพผิว ดังนี้
- โครงสร้างผิว : คอลลาเจนเป็นโครงสร้างหลักของชั้นหนังแท้ (Dermis) ทำหน้าที่เสมือนตาข่ายค้ำจุนผิว ช่วยให้ผิวเต่งตึง เรียบเนียน
- ความชุ่มชื้น : คอลลาเจนช่วยกักเก็บน้ำในชั้นผิว ทำให้ผิวชุ่มชื้น อิ่มน้ำ
- ความยืดหยุ่น : คอลลาเจนช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่น แข็งแรง ทนทานต่อแรงดึง
- ริ้วรอย : เมื่อคอลลาเจนลดลง ผิวจะสูญเสียความยืดหยุ่น เกิดริ้วรอย รอยเหี่ยวย่น
- แผลเป็น : คอลลาเจนมีบทบาทสำคัญในการสมานแผล ช่วยให้แผลหายเร็วและเรียบเนียน
เมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายผลิตคอลลาเจนได้น้อยลง ประมาณ 1-1.5% ต่อปี ส่งผลให้เกิดริ้วรอย รอยเหี่ยวย่น ผิวหย่อนคล้อย สูญเสียความยืดหยุ่น
กินคอลลาเจน ช่วยให้ผิวดูเต่งตึงขึ้น จริงหรือไม่?
มีงานวิจัยบางชิ้นแสดงให้เห็นว่า การทานคอลลาเจนมีผลให้ผิวยืดหยุ่นสูงขึ้น ทำให้ผิวชุ่มชื้น และเพิ่มความหนาแน่นของผิวได้ แต่ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่า อาหารเสริมจะแตกต่างจากการได้รับคอลลาเจนในอาหารที่รับประทานอย่างไร
ทั้งนี้ การดูดซับคอลลาเจนจากการรับประทาน อาจมีปริมาณที่น้อย เนื่องจากโมเลกุลส่วนหนึ่งจะสลายไปจากระบบย่อยอาหาร
ปัจจัยเร่งการเสื่อมสภาพของคอลลาเจน
เมื่อผิวหน้าเราสูญเสียคอลลาเจน ความกระชับของผิวจะลดลง มีผลให้รูปหน้าตกลงมาตามแรงโน้มถ่วง อาจเห็นเป็นร่องแก้ม ร่องใต้ตา ขมับตอบ และคุณภาพของผิวที่ลดลง
- อายุ : ร่างกายผลิตคอลลาเจนได้น้อยลงไปตามวัยที่เพิ่มขึ้น
- แสงแดด : เป็นสาเหตุหลักในการสลายคอลลาเจน ทำให้ผิวเสื่อมก่อนวัย
- มลภาวะ : เช่น ฝุ่น pm 2.5 เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาออกซิเดชัน ทำลายคอลลาเจน
- ความเครียด : การพักผ่อนไม่เพียงพอ ส่งผลต่อระบบฮอร์โมน กระตุ้นการสลายคอลลาเจน
- การสูบบุหรี่ : สารเคมีในบุหรี่ ทำให้ผิวแห้ง และอักเสบได้ง่าย
ขอบคุณข้อมูลจาก rama.mahidol
วิธีรักษาคอลลาเจนใต้ผิวให้อยู่ได้นาน
การรักษาโดยแพทย์
- การกระตุ้นเนื้อเยื่อผิวด้วยความร้อนจากเลเซอร์บางชนิด
- การทำ Ultherapy หรือเทคโนโยลีในกลุ่ม HIFU
- การฉีดสารเติมเต็มกลุ่ม HA Filler
- การฉีด Collagen Biostimulator ให้ผิวสร้างคอลลาเจนขึ้นใหม่จากภายใน
การดูแลด้วยตนเอง
- หลีกเลี่ยงการถูกมลภาวะ โดยเฉพาะแสงแดด
- ทานอาหารที่มีคอลลาเจน หรือจากอาหารเสริม
- ใช้ SkinCare ที่เหมาะสมในการดูแลผิวอย่างสม่ำเสมอ
- ทาครีมกันแดด ก่อนออกแดดทุกครั้ง
- การพักผ่อนให้เพียงพอ จัดการความเครียด
Collagen Biostimulator คืออะไร
ปัจจุบันการเสริมคอลลาเจนที่ได้รับความนิยม คือ การฉีดสารในกลุ่ม Collagen Biostimulator สู่ใต้ผิว เพื่อให้เกิดการกระตุ้นให้ร่างกายผลิตคอลลาเจนด้วยตัวเอง ตัวสารจะคงอยู่ใต้ผิวในระยาว 1-2 ปี ช่วยสร้างสภาพแวดล้อมให้ผิวมีการฟื้นฟูตัวเอง ตัวสารที่มีฤทธิ์ในการกระตุ้นคอลลาเจนที่สำคัญ เช่น
- กรดไฮยาลูโรนิก หรือ HA Filler
- Poly-L-lactic acid (PLLA) เช่น Sculptra และ Bellafill PLLA
- CaHA (แคลเซียมไฮดรอกซีอะพาไทต์) เช่น Radiesse
สรุปความสำคัญของคอลลาเจน
เมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายของเราผลิตคอลลาเจนได้น้อยลงประมาณ 1-1.5% ต่อปี ส่งผลให้เกิดริ้วรอย รอยเหี่ยวย่น ผิวหย่อนคล้อย คอลลาเจนสามารถลดลงได้ตามวัย และจากปัจจัยกระตุ้นต่างๆ
การจะชะลอวัยให้ใบหน้าของเราดูอ่อนเยาว์ จึงจำเป็นต้องดูแลให้คอลลาเจนใต้ผิว มีคุณภาพดี มีความหนาแน่นเพียงพอ และคงอยู่กับเราไปได้นานที่สุดค่ะ