งานแต่งงาน คือ วันสำคัญที่เจ้าบ่าว – เจ้าสาวทุกคนอยากสวยดูดีที่สุด การมีรูปร่างที่มั่นใจในวันงาน จึงเป็นเป้าหมายที่หลายคนปรารถนา บทความนี้ คุณหมอมีเคสตัวอย่างในการลดน้ำหนัก ภายในเวลา 4 เดือน ภายใต้การดูแลของแพทย์มาให้ดูเป็นแนวทางค่ะ
การเริ่มต้น ลดน้ำหนักก่อนแต่งงาน
หากเป้าหมายของเรา คือ การลดน้ำหนักก่อนวันแต่งงาน จึงหมายถึงการมีกรอบของเวลามาเป็นตัวกำหนด หมอจะแนะนำให้เริ่มต้นดังนี้ค่ะ
- เริ่มต้นให้เร็ว ยิ่งมีเวลาเตรียมตัวมากเท่าไหร่ ยิ่งลดน้ำหนักได้อย่างปลอดภัย และมีประสิทธิภาพมากขึ้นเท่านั้น หมอแนะนำให้เผื่อเวลา 3-4 เดือน เป็นอย่างน้อยค่ะ
- ตั้งเป้าหมายที่เป็นจริง อย่าคาดหวังผลลัพธ์ที่รวดเร็วเกินไป ควรตั้งเป้าหมายที่ทำได้จริง และค่อยๆ ลดน้ำหนักไปทีละน้อย
- ปรึกษาแพทย์ หรือผู้เชี่ยวชาญ เช่น นักโภชนาการ ที่สามารถให้คำแนะนำได้เหมาะสมกับสภาพร่างกายของเรา การลองผิดลองถูกด้วยตัวเอง อาจทำให้ล้มเลิกกลางทางได้ง่าย
- ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม การลดน้ำหนักให้สำเร็จ ไม่ใช่เพียงความตั้งใจระยะสั้น แต่ควรปรับที่พฤติกรรม ลดการกินจุบจิบ และปรับการใช้ชีวิตประจำวันร่วมด้วย จะทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ยั่งยืน
- ไม่กดดันตัวเองจนเกินไป ความเครียดมีผลต่อน้ำหนักตัว ทำให้ส่งผลต่อ ฮอร์โมนความหิว การลดน้ำหนักจะทำได้ยากขึ้นค่ะ
ตัวอย่างเคสการลดน้ำหนักก่อนแต่งงาน
ทางคลินิกได้รับหน้าที่ดูแลเคสการลดน้ำหนักก่อนแต่งงาน โดยทั้ง 2 ท่านมีการเริ่มต้นลดน้ำหนักที่พร้อมกัน ใช้ระยะเวลาทั้งสิ้น 3-4 เดือน จนประสบความสำเร็จ
สามารถลดน้ำหนักลงได้มากกว่า 13-17% มีรายละเอียด และแนวทางที่น่าสนใจดังนี้ค่ะ
คุณเจ้าบ่าวทำอะไรไปบ้าง?
เจ้าบ่าวเข้ารับการดูแลด้วยโปรแกรมลดน้ำหนัก โดยใช้ Peptide คุมความหิว / ลดไขมันส่วนเกินด้วย SlimSure / โดยมีการออกกำลังกายร่วมด้วย
- ทานอาหาร 2 มื้อต่อวัน เลือกทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ
- งดการดื่มแอลกอฮอล์
- โปรแกรม Peptide คุมความหิว
- ปรับพฤติกรรมการกิน ลดปริมาณอาหารในแต่ละวัน
- ทำ SlimSure เพื่อลดสัดส่วน เน้นบริเวณหน้าท้อง
- ออกกำลังกายวันละ 1-2 ชม/วัน ด้วย Weight Training เดินชัน และว่ายน้ำ
โดยสรุประยะเวลา 4 เดือน มีน้ำหนักลดลงมากกว่า 13.8 kg หรือคิดเป็น 17% มีสัดส่วนไขมันโดยรวมลดลงมากว่า 8-19% รอบเอวหายไปถึง 13 cm
คุณเจ้าสาวทำอะไรไปบ้าง?
เจ้าสาวเข้ารับการดูแลด้วยโปรแกรมลดน้ำหนัก โดยใช้ Peptide คุมความหิว / ลดไขมันส่วนเกินด้วย SlimSure / โดยไม่ได้การออกกำลังกาย
- ทานอาหาร 2 มื้อต่อวัน
- งดการดื่มแอลกอฮอล์
- โปรแกรม Peptide คุมความหิว
- ปรับพฤติกรรมการรับประทาน ลดปริมาณอาหารในแต่ละวัน
- ทำ SlimSure เน้นบริเวณหน้าท้อง ต้นแขน
- ลดน้ำหนักโดยไม่ได้ออกกำลังกาย
โดยสรุประยะเวลา 4 เดือน มีน้ำหนักลดลงมากกว่า 8 kg หรือคิดเป็น 13.8% มีสัดส่วนไขมันโดยรวมลดลงมากว่า 8-15% รอบเอวหายไปถึง 11 cm / ต้นแขนลดลง 3 cm
สรุปผลการลดน้ำหนักก่อนแต่งงาน
การคุมอาหาร ร่วมกับการใช้ยา GLP-1 เพียงอย่างเดียว สามารถช่วยให้น้ำหนักตัวลดลงได้ แต่เมื่อมีการออกกำลังกายร่วมด้วย จะเห็นได้ว่ามีแนวโน้มที่ดีกว่า ทั้งในเรื่องน้ำหนัก และสัดส่วนโดยรวม
อ้างอิงบทความการศึกษา การใช้ GLP-1 ในการลดน้ำหนัก มีประโยชน์ต่อผู้ที่มีโรคเบาหวาน การคุมระดับน้ำตาลในเลือด และโรคหัวใจอย่างไร
การลดสัดส่วน เพื่อเลือกชุดเจ้าสาว
เมื่อเจ้าสาวต้องเลือกชุดแต่งงาน มักเลือกชุดที่มั่นใจจากรูปร่างของตนเอง หลายคนอาจมีปัญหาไขมันส่วนเกินเฉพาะจุด ทำให้ไม่สามารถเลือกชุดได้หลากหลาย เช่น ชุดเปิดต้นแขน หรือชุดที่เข้ารูป
การออกกำลังกายเพื่อลดสัดส่วนเฉพาะจุด “ไม่สามารถทำได้”
เพราะเวลาที่ร่างกายเผาผลาญไขมัน จะดึงไขมันมาใช้จากทุกส่วนของร่างกาย ไม่ได้เฉพาะจุดที่เราออกกำลังกายเท่านั้น การออกกำลังกายเฉพาะส่วนจะช่วยให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นแข็งแรงขึ้น และกระชับขึ้น แต่ไม่ได้หมายความว่าไขมันบริเวณนั้นจะหายไป
ลดสัดส่วนด้วยเทคโนโลยีสลายไขมัน
- CoolSculpting เป็นเทคโนโลยีที่ใช้ความเย็นในการสลายไขมันเฉพาะจุด แต่อาจมีผลข้างเคียง การบวมช้ำหลังทำได้สูง (เห็นผลได้ 1-3 เดือน)
- WarmSculpting เป็นเทคโนโลยีที่ใช้ความร้อนในการสลายไขมันเฉพาะจุด มีความเสี่ยงหลังทำน้อยกว่า ไม่ต้องพักฟื้น (เห็นผลได้ 1-3 เดือน)
- การดูดไขมัน เป็นการผ่าตัดเอาไขมันออก แต่มีความเสี่ยงและค่าใช้จ่ายสูง (เห็นผลทันที แต่ต้องพักฟื้นนาน)
ข้อดีของการลดน้ำหนักก่อนแต่งงาน
- เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี มีโอกาสสำเร็จสูง การลดน้ำหนักก่อนแต่งงานอาจเป็นแรงบันดาลใจให้รักษาสุขภาพที่ดีต่อไปในระยะยาว นอกจากนี้การร่วมกันลดน้ำหนักกับแฟน สามารถใช้เป็นแรกผลักดันซึ่งกันและกัน ช่วยให้ประสบความสำเร็จได้ง่ายขึ้น
- ช่วยให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวดูดีขึ้นในชุดแต่งงาน ภาพถ่าย และวิดีโอที่จะเก็บไว้เป็นความทรงจำ
- มีความมั่นใจเพิ่มขึ้น รู้สึกมั่นใจในรูปร่างของตัวเอง ทำให้มีความสุข และสนุกกับงานแต่งงานมากขึ้น
- มีสุขภาพชีวิตคู่ที่ดีขึ้น นอกจากรูปร่างที่ดีขึ้นแล้ว ไขมันในช่องท้องจะลดลงด้วย ช่วยลดความเสี่ยงของโรคต่างๆ เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจ
การลดน้ำหนัก แบบไหนที่ควรพบแพทย์
ควรพบแพทย์เมื่อต้องการวางแผนลดน้ำหนักอย่างจริงจัง ต้องการผลที่รวดเร็ว รวมถึงกรณีที่ต้องการใช้ยาลดน้ำหนักร่วมกับการรักษา
นอกจากนี้ ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ หรือมีอาการผิดปกติระหว่างลดน้ำหนัก เช่น อ่อนเพลียมาก หิวบ่อย บวมง่าย ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำและการดูแลที่เหมาะสม
สรุปวิธีลดน้ำหนักก่อนแต่งงาน
การลดน้ำหนักก่อนแต่งงาน ยิ่งเริ่มเร็ว ยิ่งมีโอกาสสำเร็จทันวันแต่งงาน ควรเริ่มต้นที่การคุมอาหาร โดยเน้นการทานอาหารที่มีประโยชน์ ลดแป้ง น้ำตาล งดการกินจุบจิบ ดื่มน้ำให้มากขึ้นระหว่างวัน ถ้าเป็นไปได้ควรออกกำลังกายร่วมด้วยอย่างสม่ำเสมอ และพักผ่อนให้เพียงพอค่ะ
การลดน้ำหนัก เป็นเรื่องของการวางแผนระยะยาว ไม่สามารถทำได้ในข้ามคืน และแต่ละบุคคลมีปัจจัยที่แตกต่างกัน หากต้องการผลที่รวดเร็ว ปลอดภัย แนะนำให้พบแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญค่ะ