Facial Fillers ปรับรูปหน้าในแบบคุณ

เปลี่ยนรูปหน้าให้สดใส และอ่อนเยาว์ได้ทันที ด้วย HA Filler สารเติมเต็มผิว แก้ปัญหาใต้ตา หน้าดูเหนื่อยล้า ริมฝีปากบาง แก้มตอบ ด้วยผลิตภัณฑ์คุณภาพสากล พร้อมทีมแพทย์มากประสบการณ์

Dermal Filler คืออะไร?

ฟิลเลอร์ผิวหนัง (Dermal fillers) คือ วิธีการแก้ปัญหา สัญญาณแห่งวัย โดยการใช้สาร HA (Hyaluronic Acid) สารเติมเต็มผิวชนิดหนึ่งที่ มีส่วนประกอบหลักคือ Hyaluronic Acid ซึ่งเป็นสารธรรมชาติที่มีอยู่ในร่างกายของเราอยู่แล้ว ทำหน้าที่สำคัญในการกักเก็บความชุ่มชื้นให้กับผิว เมื่ออายุมากขึ้น ปริมาณ Hyaluronic Acid ในร่างกายจะลดลง ทำให้ผิวสูญเสียความยืดหยุ่นและเกิดริ้วรอย

ฟิลเลอร์สามารถลดเลือนริ้วรอย ร่องลึก และรอยย่นต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ริมฝีปากดูอวบอิ่มขึ้น และช่วยให้ผิวโดยรวมดูเรียบเนียนและอ่อนเยาว์ขึ้น เป็นทางเลือกที่ไม่ต้องผ่าตัด และให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติโดยมีระยะเวลาพักฟื้นน้อย

สาเหตุของริ้วรอยบนใบหน้า

เมื่อเราอายุมากขึ้น ผิวของเราจะสูญเสียคอลลาเจน และไขมันใต้ผิว ทำให้เนื้อเยื่อของผิวยืดหยุ่นน้อยลง เกิดเป็นความหย่อนคล้อย ทำให้เกิดริ้วรอย และรอยพับต่างๆ โดยสัญญาณแรกมักเกิดบริเวณหน้าแก้ม เช่น มีใต้ตาคล้ำลึก แก้มตอบ หรือร่องแก้ม

ทั้งนี้ อายุไม่ใช่สาเหตุเดียวของริ้วรอย เพราะพันธุกรรม การยิ้ม การขมวดคิ้ว การหรี่ตา การสูบบุหรี่ การถูกแสงแดด และมลภาวะต่างๆ ล้วนสามารถทำลายโครงสร้างผิวของเราได้ ส่งผลให้เกิดริ้วรอย และร่องลึกบนใบหน้า รวมถึงริมฝีปากที่บางลง ไม่ใช่แค่เพียงแค่ความแก่ชรา

2 จุดประสงค์ในการเติมฟิลเลอร์ (Filler)

• เติมเพื่อความงาม (Beautification)

ผู้รับบริการอาจไม่มีได้ปัญหาผิวที่เฉพาะเจาะจง แต่เป็นการเสริมโครงสร้างผิว โดยเน้นในการเพิ่มวอลลุ่มให้กับใบหน้า ช่วยปรับรูปทรง อาจเสริมในจุดที่คนไข้รู้สึกขาด หรือไม่มั่นใจ เช่น การเติมริมฝีปาก ปรับรูปคาง ปรับหน้าแก้มให้ดูเต็มอิ่มขึ้น เป็นต้น

• เติมเพื่อการฟื้นฟูรักษา (Rejuvenation)

มุ่งเน้นในการแก้ปัญหาบนใบหน้าที่เห็นได้โดยตรง เช่น ร่องใต้ตาที่ดูคล้ำลึก ร่องแก้ม จุดบกพร่องต่างๆ ที่เกิดขึ้นตามวัย เน้นการแก้ปัญหา และรักษาเพื่อชะลอให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์มากยิ่งขึ้น

ทั้ง 2 การรักษามีจุดประสงค์เดียวกัน คือ ทำให้ผู้รับบริการดูดีขึ้น และรู้สึกมั่นใจในตัวเองมากขึ้น อย่างเหมาะสมกับวัยของตนเอง

คำแนะนำก่อนฉีดฟิลเลอร์ (Filler)

• หลีกเลี่ยงยา และอาหารเสริมบางชนิด เช่น แอสไพริน วิตามินอี ประมาณ 1 สัปดาห์ก่อนฉีด เพื่อลดโอกาสเกิดรอยช้ำหลังทำ
• งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อย่างน้อย 24 ชม. ก่อน และหลังการรักษา
• สามารถแต่งหน้าได้หลังการทำ แต่แนะนำให้เว้นบริเวณจุดเปิดเข็มเล็กๆ ไว้
• ควรกลับมา Follow up กับแพทย์ภายใน 7 วัน เพื่อติดตามผล

การฉีดฟิลเลอร์เป็นหัตถการที่ต้องทำโดยแพทย์ที่มีความชำนาญการสูง ผู้รับบริการควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ทั้ง ก่อน-หลัง การรักษา รวมถึงเลือกรับบริการในคลินิก หรือสถานพยาบาลที่มีมาตรฐาน น่าเชื่อถือ

ตัวอย่างเคสการฉีดฟิลเลอร์ (Filler)

ตัวอย่างการฉีดฟิลเลอร์ ทางคลินิกเราแยกเป็น 2 ลักษณะ ได้แก่

1. การฉีดปรับรูปหน้า ใต้ตา (เน้นแก้ปัญหาทั่วใบหน้า เสริมส่วนที่ขาด)
2. การฉีดฟิลเลอร์ริมฝีปาก (เน้นเสริมความงาม ทำให้ดูหน้าหวานขึ้น)

ดูรีวิว ตัวอย่างเคสการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

ดูรีวิว ตัวอย่างเคสการฉีดฟิลเลอร์ปากอิ่มสวย

Filler มีกี่แบบ เลือกอย่างไร?

การเลือกเนื้อฟิลเลอร์ให้เหมาะสมกับปัญหาผิว และบริเวณที่ต้องการฉีดเป็นสิ่งสำคัญมาก เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ และตรงตามความต้องการ เนื้อฟิลเลอร์แต่ละแบบมีความแตกต่างกันในด้านความแข็ง ความยืดหยุ่น และระยะเวลาในการคงอยู่ค่ะ

• ฟิลเลอร์เนื้ออ่อน

มีลักษณะเป็นเจลบางเบา ละเอียด คล้ายน้ำ เหมาะกับการใช้เติมริ้วรอยตื้นๆ บริเวณผิวที่บอบบาง เช่นร่องน้ำตา ริ้วรอยรอบปาก หรือแม้แต่ใช้ในการฟื้นฟูคุณภาพผิว อยู่ได้ประมาณ 4-6 เดือน

• ฟิลเลอร์เนื้อกลาง

มีลักษณะคล้ายเยลลี่ ไม่เป็นน้ำ มีความยืดหยุ่นสูง สามารถปรับใช้ได้หลากหลาย เหมาะกับการเติม ริมฝีปากทรงต่างๆ ขมับ แก้มตอบ ร่องแก้ม หรือใต้ตา อยู่ได้ประมาณ 8-12 เดือน

• ฟิลเลอร์เนื้อแข็ง

มีความคงตัว และคงรูปได้มากที่สุด ใช้แทนชั้นผิวในชั้นกระดูก สามารถปั้นขึ้นรูปทรงต่างๆ ได้ จึงเหมาะในการปรับรูปหน้า เช่น การเติมคาง โหนกแก้ม การเติมฐานใต้ตาชั้นลึก สามารถอยู่ได้นาน 12-18 เดือน

การเลือกเนื้อฟิลเลอร์แต่ละรุ่น ไม่มีข้อจำกัดที่ตายตัว ขึ้นอยู่กับการพิจารณา และเทคนิคการฉีดของแพทย์ผู้ทำการฉีด โดยทั่วไปแต่ละเนื้อจะเหมาะกับการวางบนชั้นผิวที่ต่างกันค่ะ

Filler แต่ละยี่ห้อต่างกันอย่างไร?

ฟิลเลอร์แต่ละแบรนด์มีความแตกต่างกันในด้านส่วนประกอบหลัก เทคโนโลยีการผลิต เนื้อสัมผัส ความหนืด ระยะเวลาคงอยู่ และราคา ซึ่งส่งผลต่อความเหมาะสมในการใช้งานกับแต่ละบุคคล และแต่ละบริเวณที่ต้องการฉีด เช่น

• Juvederm เป็น Top Tier ที่มีเทคโนโลยี Vycross ที่ให้ความยืดหยุ่นสูง
• Restylane ใช้เทคโนโลยี CPM ที่มีความหนาแน่นสูง ได้รับความนิยมเป็นสากล
• Belotero มีความยืดหยุ่นเหมาะกับผิวบอบบาง
• Yvoire มีมาตรฐานความเป็นธรรมชาติ ในราคาที่เข้าถึงง่าย

การเลือกฟิลเลอร์ที่เหมาะสมจึงควรพิจารณาปัจจัยเหล่านี้ร่วมกับปัญหาผิวและความต้องการของผู้เข้ารับบริการ โดยควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินและเลือกฟิลเลอร์ที่เหมาะสมที่สุด

งานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับ Hyaluronic Acid Filler ในการดูแลผิว

• Clin Interv Aging. 2008. Hyaluronic acid gel fillers in the management of facial aging
• Dermatol Surg. 2012 Full-face rejuvenation using a range of hyaluronic acid fillersClin Interv Aging. 2008

ฉีดฟิลเลอร์ราคาเท่าไหร่?

ราคาในการฉีดฟิลเลอร์มีความแตกต่างกันค่อนข้างมาก โดยขึ้นอยู่กับยี่ห้อของฟิลเลอร์ที่เลือก และขึ้นอยู่กับประสบการณ์แพทย์ผู้ฉีด ทั้งนี้โดยเฉลี่ยแล้ว การฉีดฟิลเลอร์ในรุ่นมาตรฐานจะมีราคาประมาณ 8,000-12,000 บาท /CC

สรุป คำแนะนำการฉีด Filler

การฉีดฟิลเลอร์เป็นหัตถการที่ต้องทำโดยแพทย์ที่มีความชำนาญ เข้าใจโครงสร้างชั้นผิว และรู้ตำแหน่งเส้นเลือดที่ควรต้องหลบเลี่ยง แพทย์แต่ละท่านจะมีเทคนิคที่แตกต่างกันไป ผู้รับบริการควรเลือกคลินิกที่มีมาตรฐาน สามารถตรวจสอบตัวยาที่ใช้ได้ ไม่ควรพิจารณาจากราคา หรือโปรโมชั่นเพียงอย่างเดียวค่ะ