6 วิธีป้องกันผิวแก่ก่อนวัย ใครไม่อยากแก่ไวบทความนี้มีคำตอบ เพียงเข้าใจกระบวนการ Aging Process ของร่างกาย พร้อมเสริมด้วยอาหารที่คุณสามารถหาได้ในทุกวัน
กระบวนการ Aging คืออะไร?
กระบวนการชรา (Aging) หรือการเสื่อมของเซลล์ในร่างกาย ไม่ได้เกิดจากอายุเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีปัจจัยอื่นๆ อีกมากมาย ที่ส่งผลให้แม้จะเป็นคนอายุเท่ากัน ก็มีสภาพร่างกาย ทั้งระบบภายใน และผิวภายนอก ที่ต่างกันมาก
เรียกกันว่า ” ผิวแก่ก่อนวัย ” การดูแลตัวเองที่ถูกต้อง นอกจากทำให้มีสุขภาพผิวที่ดีแล้ว ยังช่วยให้มีอายุที่ยืนยาวได้
6 วิธีป้องกันผิวแก่ก่อนวัย
แม้ร่างกายของคนเราจะโตเต็มที่ในช่วงอายุ 20-30 ปี ก่อนจะเกิดกระบวนการเสื่อมของร่างกาย แต่ความจริงอายุเป็นเพียงตัวเลขเท่านั้น สิ่งสำคัญ เกิดจากการดูแลตัวเอง
6 ปัจจัย ที่ทำให้ผิวแก่ก่อนวัย
1. อนุมูลอิสระ (Free Radical)
คือ ของเสียที่ร่างกายสร้างขึ้นอยู่ตลอดเวลา อาจมาจากกระบวนการเผาผลาญ ความเครียด นอนไม่พอ มลพิษ ควันบุหรี่ แอลกอฮอล์ อาหารแปรรูป หรือมาจากอายุที่เพิ่มขึ้น เป็นกระบวนการในร่างกาย ที่จะไปจับกับเซลล์ในร่างกาย ซึ่งจะทำให้เซลล์เสื่อม และตายลง เราจึงควรมีสารที่ต้านอนุมูลอิสระที่เพียงพอ หรือทำให้ร่างกายเกิดอนุมูลอิสระ น้อยที่สุด
อนุมูลอิสระ สามารถเกิดได้ทั้งปัจจัยภายในร่างกาย จากการดูแลตัวเอง อาหารที่รับประทาน ความเครียด การพักผ่อน และจากปัจจัยภายนอก คือสภาพแวดล้อม ฝุ่นควัน แสงแดด เป็นต้น
ผลไม้ในตระกูลเบอร์รี่ทุกชนิด เต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ บำรุงทำให้เซลล์ในร่างกาย ชะลอความเสื่อมของผิว
สารต้านอนุมูลอิสระ (Anti-Oxidants) หาได้จากไหน?
- ผัก-ผลไม้ หลากหลายสี
- ธัญพืช ถั่ว อุดมด้วยไขมันดี
- เนื้อปลาทะเล ที่มี Omega 3 สูง
- การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
- เลี่ยงของทอด อาหารไขมันสูง
- เลี่ยงอาหารน้ำตาลสูง
- เลี่ยงมลพิษต่างๆ เช่น ฝุ่น PM 2.5 ควันรถ ควันบุหรี่ สารเคมี
น้ำตาลมีสาร AGES ทำให้เกิดกระบวนการเสื่อมของเซลล์ในร่างกาย
2. น้ำตาลสะสม
ชีวิตคนเมืองในปัจจุบัน เรามักบริโภคอาหารที่มี แป้งขาว และน้ำตาลสูงขึ้น เกิดเป็นสารที่ส่งผลกับความแก่โดยตรง ที่เรียกว่า AGEs (Advanced Glycosylation End Product) สารดังกล่าวจะไปจับกับโมเลกุลของร่างกายที่เป็นโปรตีน จะทำให้เสื่อมสภาพลง ลดคอลลาเจนใต้ผิว เกิดจุดด่างดำ หากจับกับโปรตีนในหลอดเลือด เป็นเวลานาน เส้นเลือดจะแข็ง เปราะ และพังได้เร็ว
น้ำตาลเป็นปัจจัยเร่งสาร AGEs ซึ่งส่งผลให้เซลล์ในร่างกายมีอายุที่สั้นลง เมื่อสาร Ages เกิดขึ้นในชั้นผิวหนังจะส่งผลให้โปรตีนอีลาสติน และคอลลาเจนเสื่อมสภาพ ความยืดหยุ่นของผิวหนังลดลง เกิดการหย่อนคล้อย
ตัวอย่างอาหารที่ทำให้เกิดน้ำตาลสะสมสูง
- อาหารจำพวกแป้ง ข้าว ขนมปัง พิซซ่า ปาท่องโก๋
- ขนมหวาน เค้ก ไอศครีม
- น้ำหวาน เครื่องดื่มน้ำอัดลมที่มีน้ำตาลสูง
3. การอักเสบเรื้อรัง (Chronic Inflammation)
ในที่นี้ จะหมายถึง กลุ่มคนอ้วนลงพุง เนื่องจากการมีไขมันที่สะสมในร่างกาย จะก่อให้เกิดกระบวนการอักเสบเล็กๆ อยู่ตลอดเวลา หรือแม้แต่ อาการบาดเจ็บเรื้อรัง จะทำให้เซลล์ต่างๆ ในร่างกายเสื่อมไวขึ้นได้
4. ภาวะพร่องฮอร์โมน (Hormonal Insufficiency)
เมื่ออายุเพิ่มขึ้นร่างกายจะผลิตฮอร์โมนจะลดลง เช่น แอนโดรเจน เอสโตรเจน โกรทฮอร์โมน และเมลาโทนิน ซึ่งส่งผลให้การฟื้นฟูร่างกายลดลง และอาจเกิดโรคต่างๆ ตามมาได้ง่ายยิ่งขึ้น
ภาวะพร่องฮอร์โมนในเพศหญิง จะเกิดในช่วงวัยประมาณ 48-52 ปี
5. การรับสารพิษจากปัจจัยภายนอก
ฝุ่น pm2.5 ในอากาศ ควันบุหรี่ แสงแดด เป็นปัจจัยเร่งจากภายนอก ที่ส่งผลโดยตรงกับการเสื่อมของเซลล์ในร่างกาย หากสะสมเป็นเวลานาน อ่านเรื่องอันตรายจากฝุ่น PM 2.5
นอกจาก PM2.5 แล้ว ควันบนท้องถนนจากไอเสียรถยนต์ มีผลเร่งความเสื่อมของเซลล์ได้เช่นกัน
6. อาหารแปรรูป
เช่น ไส้กรอก แฮม ลูกชิ้น เนื้อรมควัน หรืออาหารที่มีการเติมสารเคมี ที่ช่วยยืดอายุ หากทานเป็นประจำ จะเพิ่มอัตราเสี่ยงการเป็นโรคเรื้อรัง การรับประทานอาหารจากวัตถุดิบปรุงสุก และสด จึงเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชณาการดีที่สุด
ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่า อาหารแปรรูปเป็นต้นเหตุของโรค แต่บางงานวิจัยชี้ว่า อาหารแปรรูป มักมีสารประกอบทางเคมีที่เป็นอันตราย ที่ก่อให้เกิดโรคได้
วิธีสังเกตผิวแก่ก่อนวัย
- มีริ้วรอยบริเวณรอบดวงตา หรือรอยตีนกา เกิดจากการแสดงออกทางสีหน้า หรือการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อบริเวณรอบดวงตาซ้ำๆ
- เกิดร่องลึกใต้ตา และคล้ำ อาจเกิดจากลักษณะโครงหน้าที่มีมาแต่กำเนิด ไปจนถึงความเครียด และการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ
- ผิวหน้าหย่อนคล้อย จากการที่มวลกระดูกที่ลดน้อยลง ทำให้จากเดิมที่โครงสร้างและกรอบของใบหน้าที่เคยดูเป็นทรวดทรง เริ่มมองเห็นได้ไม่ชัดและเกิดเป็นปัญหาร่องแก้มตามมา
- ผิวหน้าแห้งกร้าน หมองคล้ำ ไม่สดใส จากแสงแดดที่ทำร้าย มลภาวะต่างๆ (อ่านบทความ แสง UV ตัวการทำผิวหมองคล้ำ)
- มุมปากตก หน้าบึ้ง อีกผลพวงเมื่อมวลกระดูกลดลงตามอายุที่มากขึ้น ส่งผลให้โครงหน้าเริ่มเปลี่ยน
- ริมฝีปากบาง ไม่อวบอิ่ม และเล็กลง
สรุปการดูแลผิว ไม่ให้แก่ก่อนวัย
ปัญหาผิวแก่ก่อนวัย ไม่ได้เกิดขึ้นในทันที แต่เกิดเมื่อเราขาดการดูแลผิว และสุขภาพต่อเนื่องเป็นเวลานาน
เมื่อสะสมกันนานเข้า จึงอาจเกิดเป็น ริ้วรอย ความหมองคล้ำ ความหย่อนคล้อย แม้ในทางการแพทย์ด้านความงาม เราสามารถแก้ไขได้ เช่น การทำ Ulthera ฉีดฟิลเลอร์ โบย้อนวัย ต่างๆ แต่การดูแลป้องกัน เพื่อชะลอปัญหาก่อนที่จะเกิด จะช่วยให้เรามีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง คู่กับผิวที่สวยไปตามวัยได้อย่างเหมาะสมค่ะ
