การตั้งครรภ์เป็นช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงทั้งร่างกาย และจิตใจ การดูแลตัวเองเป็นสิ่งสำคัญ แต่บางบริการความงามอาจส่งผลต่อสุขภาพคุณแม่ และทารกในครรภ์ บทความนี้รวบรวมสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงเมื่อไปคลินิกความงาม เพื่อความปลอดภัยของทั้งคุณแม่และลูกน้อยค่ะ
» สรุปเนื้อหาสำคัญ
- การฉีดฟิลเลอร์ และโบท็อกซ์ ยังไม่มีงานวิจัยรับรองความปลอดภัยในหญิงตั้งครรภ์ อาจเสี่ยงต่อการอักเสบ การบวม หรือติดเชื้อ
- ควรเลี่ยงหัตถการที่ใช้เวลานาน และมีความเจ็บปวด เนื่องจากอาจทำให้คุณแม่เครียดสะสม
- คุณแม่ตั้งครรภ์ควรเน้นการดูแลผิวด้วยวิธีที่ปลอดภัย ใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน เน้นการทามอยส์เจอไรเซอร์ ดื่มน้ำมากๆ อย่าปล่อยให้ผิวแห้ง หลังคลอดบุตรจึงสามารถกลับมาทำหัตถการความงามได้ตามปกติ
การเปลี่ยนแปลงร่างกายคุณแม่ขณะตั้งครรภ์
การตั้งครรภ์ทำให้ร่างกายคุณแม่เปลี่ยนแปลงไปหลายอย่าง ทั้งทางสรีรวิทยา และฮอร์โมน ซึ่งส่งผลต่อการทำงานของผิวหนัง อาจมีผลต่อการทำหัตถการทางการแพทย์ เช่น ปริมาณเลือดที่เพิ่มขึ้น และฮีมาโตคริต (Haematocrit) ที่ลดลงอาจทำให้ผิวหน้าแดงขึ้น การกระตุ้น เมลาโนไซต์ (Melanocytes) มากขึ้นทำให้ผิวคล้ำเสีย เกิดฝ้า กระ จุดด่างดำได้ง่ายขึ้น และการสมานแผลที่เปลี่ยนแปลงไปอาจทำให้เกิดแผลเป็นนูน หรือคีลอยด์ได้ง่ายขึ้น
นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนอาจทำให้เกิดอาการทางผิวหนังต่างๆ อาจมีขนขึ้นเยอะ รอยแตกลาย อีกทั้งการตั้งครรภ์อาจทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง ทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อแบคทีเรีย และไวรัสได้ง่ายขึ้นค่ะ
ช่วงตั้งครรภ์จะมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ในบางคนอาจพบว่าผิวดีขึ้น หรือแย่ลงได้
ทำไมคนท้องควรเลี่ยงการฉีด Filler ?
ถึงแม้ว่าสารที่ใช้ในการฉีดฟิลเลอร์ส่วนใหญ่ จะเป็นสารที่ร่างกายสามารถสร้างขึ้นได้เอง แต่ก็ยังไม่มีงานวิจัยมากพอที่จะยืนยันความปลอดภัยของการฉีดฟิลเลอร์ในหญิงตั้งครรภ์ได้ นอกจากนี้ แม้ว่าในกรณีทั่วไป การฉีดฟิลเลอร์จะไม่เป็นอันตราย แต่สำหรับคนท้อง อาจจะมีความเสี่ยงในการเกิดอาการบวม การอักเสบ หรือการติดเชื้อสูงขึ้นได้ค่ะ
ทำไมคนท้องควรเลี่ยงการฉีด Botox ?
แม้การฉีด โบทูลินัม ท็อกซิน ทางความงามจะใช้ในปริมาณน้อยมาก แต่ก็ยังไม่มีการศึกษาที่ยืนยันความปลอดภัยอย่างชัดเจน นอกจากนี้ ร่างกายของคุณแม่มีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ซึ่งอาจทำให้ปฏิกิริยาแตกต่างจากปกติ และอาจเกิดผลข้างเคียงที่ไม่คาดคิดได้ แพทย์ส่วนใหญ่ และองค์กรทางการแพทย์จึงแนะนำให้หลีกเลี่ยงการฉีดโบท็อกซ์ในระหว่างตั้งครรภ์ค่ะ
ระหว่างตั้งครรภ์ ทำเลเซอร์ได้ไหม?
โดยส่วนใหญ่แล้ว การรักษาด้วยเลเซอร์จะทำเพียงเฉพาะจุด ซึ่งจะส่งผลกระทบเฉพาะกับบริเวณที่ทำเท่านั้น เช่น การรักษาฝ้า รักษาเม็ดสี หรือเลเซอร์กำจัดขน ดังนั้นหากมีความจำเป็นต้องทำ ในทางทฤษฎีจึงอาจทำได้ แต่มีข้อควรระวังดังนี้
- การทำเลเซอร์มักก่อให้เกิดความร้อนสะสม ผิวคุณแม่ขณะที่ตั้งครรภ์จึงมีโอกาสเกิดผลข้างเคียง หรือการระคายเคืองสูงกว่าปกติได้
- ฮอร์โมนคุณแม่ขณะตั้งครรภ์จะสูง ซึ่งมีส่วนต่อเม็ดสีที่อาจเพิ่มขึ้น การทำเลเซอร์อาจกระตุ้นให้อาการแย่ลงได้ค่ะ
- ควรเลี่ยงการทำเลเซอร์ที่เจ็บปวด และใช้เวลานาน เพื่อลดความเครียดสะสม ซึ่งจะส่งผลต่อลูก
คนท้องทำ Ulthera / Thermage ได้ไหม?
การทำ Ulthera และ Thermage เพื่อยกกระชับผิว ยังไม่แนะนำสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ เนื่องจากยังขาดงานวิจัยที่รับรองในคนท้องเช่นเดียวกันค่ะ ถึงแม้จะทำบริเวณใบหน้า ไม่ได้ส่งผลต่อลูกในครรภ์โดยตรง แต่ทั้ง 2 การรักษามีผลในเรื่องของความร้อนสะสม ความรู้สึกไม่สบายระหว่างรักษา และใช้เวลานาน จึงแนะนำให้ทำหลังคลอดบุตรแล้วค่ะ
คุณแม่ตั้งครรภ์ทำอะไรแทนได้บ้าง?
ในช่วงตั้งครรภ์ โดยทั่วไปสามารถดูแลผิวพรรณ และความงามได้โดยวิธีที่ปลอดภัย เช่น
- เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ปลอดภัย ปราศจากสารเคมีอันตราย เช่น พาราเบน เรตินอล หรือกรดซาลิไซลิก
- ทามอยส์เจอร์ไรเซอร์เป็นประจำ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ช่วยลดอาการคัน และผิวแห้งที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนระหว่างตั้งครรภ์
- การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เลือกอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ เพื่อเสริมสุขภาพผิวจากภายใน
- ดื่มน้ำให้มากขึ้น เพราะขณะตั้งครรภ์ผิวจะแห้งมากกว่าปกติ เนื่องจากการขยายตัวของผิวส่วนบน
- การออกกำลังกายเบาๆ เช่น การโยคะสำหรับคนท้อง หรือการเดิน ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต
เพื่อลดโอกาสการเกิดผิวแตกลาย จากการขยายตัวของร่างกายที่รวดเร็ว แนะนำให้คุณแม่ตั้งครรภ์เสริมการทา ไบโอออยล์ (Bio-Oil) ในบริเวณหน้าท้อง ต้นขา ก้น หลังแขน เป็นประจำค่ะ
คุณแม่ให้นม สามารถทำหัตถการความงามได้ แต่ควรแจ้งให้แพทย์ทราบทุกครั้ง
ขณะให้นมบุตรเสริมความงามได้ไหม?
คุณแม่ให้นมสามารถกลับมาเสริมความงามได้แล้วค่ะ เช่น
- สามารถทำเลเซอร์ดูแลผิว สิว ฝ้า ลบรอยแตกลาย หรือกำจัดขน ได้ตามปกติ
- เลเซอร์สลายไขมัน เพื่อให้รูปร่างกลับมาเข้าที่ไวขึ้น ช่วยลดผิวเปลือกส้มได้
- รวมทั้งในกลุ่มการยกกระชับ เช่น Ulthera หรือ Thermage
- ในส่วนของหัตถการที่มีการฉีดเข้าไป เช่น ฟิลเลอร์ โบท็อกซ์ ตามกลไกแล้วสารเหล่านี้จะไม่ส่งผ่านน้ำนมค่ะ
- ยังไม่ควรทำหัตถการที่ต้องมีการพักฟื้น เช่น การศัลยกรรม ควรรอให้ลูกอย่านมก่อนค่ะ
หากคุณแม่มีความกังวล ในบางคนจะแนะนำให้ใช้วิธี “ปั้มนมทิ้ง” หลังการทำหัตถการในวันนั้นทันที เพื่อความมั่นใจก็สามารถทำได้ค่ะ
สรุปคุณแม่ตั้งครรภ์ ดูแลความงามอย่างไร?
แพทย์ส่วนใหญ่ยังคงสรุปว่าให้เลี่ยงหัตถการทางความงามไว้ก่อน จนหลังคลอดบุตรค่ะ เนื่องจากผลการวิจัยส่วนใหญ่แสดงให้เห็นว่า แม้ยา และขั้นตอนการรักษาจะปลอดภัยสำหรับสตรีมีครรภ์ แต่การศึกษาที่สนับสนุนเรื่องนี้ยังมีจำกัด
ดังนั้น สำหรับการดูแลผิวคุณแม่ในช่วงนี้ แนะนำให้เน้นการเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวเป็นหลัก ทั้งผิวหน้า และผิวกาย ทาครีมกันแดดทุกครั้งเมื่อออกจากบ้าน และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพก็เพียงพอค่ะ