เผย 3 สัญญาณ หน้าแก่ก่อนวัย กันไว้ง่ายกว่าแก้!

ผิวที่เริ่มมีสัญญาณหน้าแก่ก่อนวัย สามารถแยกออกเป็น 3 รูปแบบง่ายๆ โดยใช้การสังเกต และป้องกันได้ด้วยตนเอง การเริ่มป้องกันไว้ตั้งแต่วันนี้ จะง่ายกว่าการแก้ไขในภายหลังค่ะ

สัญญาณผิวหน้าแก่ก่อนวัย (Pre-Aging Signs)

ผิวของคนเรามีการเสื่อมไปตามกาลเวลา สามารถเกิดได้หลากหลายรูปแบบ ส่วนใหญ่จะเริ่มสังเกตเห็นได้ตั้งแต่อายุ 25 ปี ขึ้นไป

หากมีปัจจัยกระตุ้นต่อเนื่อง จะส่งผลให้เกิดเป็นตัวเร่ง ทำให้ปัญหาผิวเกิดขึ้นก่อนวัยได้ สามารถแบ่งออกเป็น 3 ลักษณะทางกายภาพ ได้ดังนี้ค่ะ

1. จุดด่างดำ เม็ดสี ความหมองคล้ำ

ลักษณะของเม็ดสีผิวที่ดูไม่กระจ่างใส มักเกิดจากแสงแดดเป็นศัตรูตัวร้ายของผิว โดย UV ในแสงแดดกระตุ้นการผลิตเม็ดสีเมลานิน ทำให้เกิดจุดด่างดำ ฝ้า กระ และผิวหมองคล้ำ

สาเหตุกระตุ้นอื่นๆ ได้แก่ มลภาวะ ความเครียด และการพักผ่อนไม่เพียงพอก็เป็นปัจจัยที่ทำให้ผิวขาดความกระจ่างใส

2. คุณภาพผิว ริ้วรอย ผิวแห้ง รูขุมขนกว้าง

เกิดจากการเสื่อมของคอลลาเจน และอิลาสติน ซึ่งเป็นโปรตีนที่ช่วยให้ผิวแข็งแรง และยืดหยุ่นดี เมื่ออายุมากขึ้น การผลิตคอลลาเจนและอิลาสตินจะลดลง ทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้น เกิดริ้วรอย ตีนกา ร่องหน้าผาก และรูขุมขนที่กว้างขึ้นได้

สาเหตุกระตุ้นอื่นๆ ได้แก่ การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ และการรับประทานอาหารไม่ดีต่อสุขภาพก็เป็นตัวเร่งให้ผิวเสื่อมสภาพเร็วขึ้น

3. ความหย่อนคล้อย ร่องลึก รูปหน้าที่เปลี่ยนไป

เมื่ออายุมากขึ้น ไขมันใต้ผิวหนังจะลดลง กล้ามเนื้อจะอ่อนแรงลง และกระดูกจะบางลง ทำให้รูปหน้าเปลี่ยนไป โดยมากจะเริ่มมีร่อง หรือ ถุงบริเวณใต้ตา เกิดร่องลึกบริเวณร่องแก้ม เริ่มมีผิวที่หย่อนคล้อย ใบหน้าดูไม่คมชัดเหมือนแต่ก่อน

ปัจจุบันการรักษาผิวหย่อนคล้อยด้วยวิธีทางการแพทย์ที่เห็นผลได้ชัดเจนที่สุด ประกอบด้วย การทำ Ultherapy / Thermage / ฉีด Filler หรือ การฉีดผิวในกลุ่มสาร Biostimulator

การรักษาทางความงาม ช่วยได้แค่ไหน?

การรักษาทางความงาม เช่น การฉีดโบลดริ้วรอย การฉีดฟิลเลอร์ หรือการยกกระชับด้วยเครื่องต่างๆ สามารถชะลอ Aging Signs ให้เกิดขึ้นช้าลงได้ โดยแต่ละคนจะมีการตอบสนองของเทคโนโลยี และหัตถการที่แตกต่างกันไป การดูแลป้องกันตั้งแต่ยังเกิดปัญหาไม่มาก (Prevention) จะเห็นผลได้ดีที่สุด

ทั้งนี้ เทคโนโลยีต่างๆ เป็นเพียงปัจจัยเสริมจากภายนอก แม้คนไข้จะรับการรักษาแล้ว ก็ควรดูแลผิวตัวเองอย่างถูกต้อง หลีกเลี่ยงปัจจัยที่ส่งผลเสียต่อผิวพรรณของตนเองต่อไป

ลำดับการเกิด Aging Signs ของใบหน้า

สัญญาณแห่งวัย (Aging Signs) บนใบหน้ามักจะเกิดขึ้นตามลำดับต่อไปนี้

• ริ้วรอยเล็กๆ รอบดวงตา (Crow’s Feet)
  มักเป็นสัญญาณแรกที่สังเกตเห็นได้ โดยเกิดจากการแสดงสีหน้าซ้ำๆ เช่น การยิ้ม หรือหรี่ตา
• ริ้วรอยระหว่างคิ้ว (Frown Lines หรือ Glabellar Lines)
  เกิดจากการขมวดคิ้วบ่อยๆ
• ร่องแก้ม (Nasolabial Folds)
  เป็นร่องลึกที่เกิดขึ้นจากปีกจมูกไปยังมุมปาก อาจเริ่มสังเกตเห็นได้ชัดขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น
• ผิวหย่อนคล้อย (Sagging Skin)
  ผิวเริ่มสูญเสียความยืดหยุ่น ทำให้เกิดความหย่อนคล้อยบริเวณแก้ม คาง และรอบดวงตา
• จุดด่างดำ (Age Spots หรือ Sun Spots)
  เกิดจากการสะสมของเมลานินที่ผิวหนัง มักพบในบริเวณที่โดนแสงแดดบ่อยๆ
• ผิวแห้งกร้าน (Dry Skin)
  ผิวผลิตน้ำมันน้อยลง ทำให้ผิวแห้งและหยาบกร้าน

อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับพันธุกรรม สภาพแวดล้อม และการดูแลผิว

ข้อมูลจาก Platinumdermatology : The seven signs of ageing

การเลือกเครื่องยกกระชับที่เหมาะกับเรา

ปัจจัยเร่งทำให้ผิวแก่ก่อนวัย

1. การถูกแสงแดด มลภาวะเป็นประจำ รังสี UV รวมถึงฝุ่นควัน มลพิษต่างๆ มีผลในการทำลายคอลลาเจน และอิลาสตินของผิวโดยตรง
2. การสูบบุหรี่ สารพิษในบุหรี่ลดการไหลเวียนของเลือด ทำให้ผิวขาดออกซิเจน และสารอาหาร ส่งผลให้ผิวแห้งกร้าน ดูหมองคล้ำ
3. การดื่มแอลกอฮอล์ ทำให้ร่างกายขาดน้ำ ผิวแห้ง และเกิดริ้วรอยได้ง่าย
4. ความเครียด ทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล ทำให้ผิวเหี่ยวย่น และเกิดริ้วรอย
5. อาหารการกิน การรับประทานอาหารที่มีน้ำตาลสูง ไขมันสูง
6. การแสดงสีหน้าบ่อยๆ การขมวดคิ้ว ยิ้ม หัวเราะ ทำให้เกิดริ้วรอยได้ง่ายขึ้น
7. โรคประจำตัว โรคบางชนิด เช่น เบาหวาน โรคไทรอยด์ และโรคภูมิแพ้ผิวหนัง อาจทำให้ผิวแก่ก่อนวัยได้

สรุปการป้องกันไม่ให้ผิวแก่ก่อนวัย

การดูแล บำรุงผิวให้ดีในแต่ละวัน และการป้องกันแสงแดดเป็นกุญแจสำคัญในการชะลอวัยของผิว หากคุณเริ่มสังเกตเห็นสัญญาณแห่งวัย ควรรีบปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อขอคำแนะนำในการดูแล และรักษาที่เหมาะสม

แม้ความงามจะเป็นเรื่องของแต่ละบุคคล แต่เราสามารถดูดีอย่างเหมาะสมตามช่วงวัยของเราได้ โดยการดูแลการป้องกัน หรือแก้ปัญหาแต่เนิ่นๆ ซึ่งจะง่าย และเห็นผลได้ชัดเจนกว่าปล่อยทิ้งไว้ระยะยาวค่ะ