การยกกระชับหน้า เป็น 1 ในศาสตร์ย้อนวัยผิว ที่ได้รับความนิยมสูงในปัจจุบัน ด้วยตัวช่วยของเทคโนโลยีทางการแพทย์ อาจเป็นทางเลือกที่ทำให้เราดูอ่อนกว่าวัย หรือดูดีสมวัยได้มากที่สุด ในบทความนี้ คุณหมอจะมาแนะนำวิธีที่เหมาะกับปัญหาของเราค่ะ
ผิวหน้าไม่กระชับ ความหย่อนคล้อย เกิดจากอะไร?
หากนึกย้อนถึงผิวของเราสมัยก่อน สังเกตว่าผิวจะมีความเฟิร์ม ผิวกระชับมากกว่าตอนนี้ เพราะด้วยปัจจัยกระตุ้นต่างๆ เช่น อายุที่มากขึ้น มลภาวะ แสงแดด ทำให้เซลล์ผิว และคอลลาเจน มีการเสื่อมสภาพไปในแต่ละปี ส่งผลให้ผิวเกิดการเปลี่ยนแปลง ตั้งแต่ ชั้นหนังแท้ ชั้นไขมัน และชั้นกระดูก
เมื่อโครงสร้างผิวเสื่อมลง ความยืดหยุ่นลดลง เกิดเป็นความหย่อนคล้อย หากขาดการดูแลที่เหมาะสม จะส่งผลให้เราดูแก่ก่อนวัย และแก้ไขได้ยากเมื่อปล่อยทิ้งไว้นาน
1.ยกกระชับหน้า ด้วยกลุ่มเทคโนโลยี HIFU
High Intensity Focused Ultrasound หรือที่หลายคนรู้จักในชื่อ HIFU ใช้หลักการส่งพลังงานลงชั้นผิว โดยไม่ต้องพึ่งเข็ม เทคโนโลยีนี้มีหลายรุ่นที่เรียกชื่อรวมกันว่า HIFU ผู้รับบริการอาจต้องเลือกให้ดี เนื่องจาก HIFU ในตลาดมีประสิทธิภาพที่แตกต่างกัน โดยมีตั้งแต่เครื่องมาตรฐาน ไปจนถึงเครื่องที่ไม่ผ่าน อย. ราคาถูก
HIFU จะเหมาะผู้ที่มีความหย่อนคล้อยไม่มาก หลังทำอยู่ได้ประมาณ 1-3 เดือน สูงสุดไม่เกิน 6 เดือน
2.การร้อยไหม
การร้อยไหม เป็นการยกกระชับโดยการสอดไหมเข้าใต้ผิว ซึ่งตัวไหมจะมีลักษณะเป็นเงี่ยง หรือตะขอเล็กๆ เพื่อให้ยึดติดกับผิว ยกขึ้นในแนวหน้าที่ต้องการ วิธีนี้อาจไม่ได้เหมาะกับทุกคน ควรให้แพทย์ที่เชี่ยวชาญเป็นผู้พิจารณา เนื่องจากเป็นหัตถการที่จะเกิดแผลใต้ผิว มีการบวม รอยเขียวช้ำ และต้องมีการพักฟื้น ใบหน้าจะเริ่มเข้าที่ในช่วง 2-4 สัปดาห์
3.ยกกระชับหน้าด้วยการทำ Ultherapy
เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมสูงในปัจจุบัน จากการส่งพลังงานคลื่น Micro Focus Ultrasound ลงไปที่ผิวชั้น SMAS โดยตรง ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับการผ่าตัดยกใบหน้า ช่วยให้เกิดการหดตัว และสร้างคอลลาเจนใหม่ คลื่นนี้จะส่งลงไปเป็นจุดเรียงกันสม่ำเสมอ มีความแม่นยำ เนื่องจาก Ulthera มีการ Scan ชั้นผิว ทำให้แพทย์มองเห็นชั้นผิวคนไข้ขณะทำตลอดเวลา จึงปรับการยิงให้เหมาะสมในแต่ละคนได้อย่างปลอดภัย
การทำ Ulthera อาจมีความเจ็บมากกว่า HIFU เนื่องจากพลังงานลงลึกถึงชั้นผิวทุกจุด และไม่แนะนำให้ทำในผู้ที่มีไขมันสะสมบนใบหน้าปริมาณมาก เนื่องจากไขมันบนชั้นผิวอาจทำให้ดูไม่เห็นผล โดยผลการรักษาจะเห็นได้ทันที 20% – 30% และเห็นผลชัดเจนสูงสุดใน 1-3 เดือน อยู่ได้นานถึง 1 ปี
4.การทำ Thermage ให้ผิวหน้ายกกระชับ
เป็นการใช้คลื่นวิทยุความถี่สูง (RF Radiofreqency) ลงไปในผิวชั้นหนังแท้ และชั้นไขมัน คลื่นนี้จะมีความร้อนที่สูง จึงช่วยกระชับผิว และสลายไขมันส่วนเกินบนใบหน้า มีความแตกต่างจากการทำ Ulthera ตรงที่
- Ulthera จะเด่นในเรื่องความยกกระชับของผิวโดยตรง
- ThermageFLX จะเหมาะในผู้ที่มีไขมันสะสมบนใบหน้าปริมาณมาก ทำให้หน้าเล็กลง
มีงานวิจัยที่พบว่าการทำ Thermage 1 ครั้ง มีผลช่วยฟื้นฟู และชดเชยคอลลาเจนคุณภาพดี (Collagen Type 3) ได้ประมาณ 2 ปี
ดังนั้นการทำให้ต่อเนื่อง ทุกๆ 1-2 ปี จะทำให้เรามีผิวหน้าที่ดูอ่อนกว่าวัยได้ระยะยาวค่ะ
การทำ Thermage จะเหมาะในผู้ที่ใบหน้ามีการสะสมของไขมันที่มาก จะได้ประโยชน์ในการลดขนาดแก้ม พร้อมกับทำให้ผิวแน่นเฟิร์ม
5.รักษาด้วย Filler (สารเต็มเต็ม)
นอกจากการฉีดเพื่อเติมเต็มเฉพาะจุด ปริมาณ 1-4 CC อย่างเช่น ฟิลเลอร์ใต้ตา ขมับ ร่องแก้ม ฟิลเลอร์ปาก แล้ว เราสามารถใช้ฟิลเลอร์ในการพยุง หรือซัพพอร์ทโครงสร้างผิวให้แข็งแรงขึ้น ซึ่งจะทำให้ใบหน้าโดยรวมดูยกกระชับย้อนวัยได้
แต่การจะปรับให้ผิวหน้าโดยรวมเห็นการเปลี่ยนแปลง อาจจะต้องปริมาณฟิลเลอร์ตั้งแต่ 8-12 CC จึงจะเพียงพอให้แพทย์วางตำแหน่งในการยกผิวทั่วหน้า
6.การฉีด Collagen Biostimulator
Collagen Biostimulator คือ สารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในร่างกายของเราเองตามธรรมชาติ ทำหน้าที่ทดแทนคอลลาเจนเดิมที่สูญเสียไปตามอายุ นับเป็นนวัตกรรมทางเลือกในการช่วยฟื้นฟูโครงสร้างผิวชั้นลึก ช่วยให้ผิวยกกระชับ คืนความแข็งแรง ความยืดหยุ่น พร้อมช่วยฟื้นคืนคุณภาพผิวให้กลับมาดียิ่งขึ้น
7.การดูแลผิวหน้าให้กระชับด้วยตัวเอง
เราสามารถทำได้ด้วยตัวเอง แต่ผลลัพธ์จะไม่สามารถเทียบเท่าเทคโนโลยีต่างๆ ได้ เช่น
- การนวดหน้า ร่วมกับครีมที่มีส่วนช่วยกระชับผิว จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด และน้ำเหลือง ทำให้ผิวดูสดใส และกระชับขึ้น ควรวังการนวดที่รุนแรงเกินไป หรือบริเวณที่มีการอักเสบ
- ใช้ Skincare และ Mask ผิวอย่างสม่ำเสมอ
- การออกกำลังกาย บริหารกล้ามเนื้อใบหน้า ควรทำโดยมีผู้เชี่ยวชาญดูแล
- หลีกเลี่ยงการถูกแสงแดด และมลภาวะ พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำ และทานอาหารที่มีประโยชน์ จะช่วยให้ผิวสุขภาพดี อยู่กับเราไปได้ยาวนานค่ะ
สรุปแนวทางยกกระชับหน้า ย้อนวัยผิว
แนะนำให้ดูจากช่วงวัย และลักษณะปัญหาความหย่อนคล้อยของตัวเองเป็นหลัก โดยวิธีที่นิยมมากที่สุดในปัจจุบัน จะเป็นการเริ่มต้นด้วย HIFU หรือ Ulthera เป็นทางเลือกที่ง่ายที่สุดโดยไม่ต้องผ่าตัด และอาจพิจารณาการฉีดปรับรูปหน้า ซึ่งจะช่วยเสริมในส่วนที่พร่องไปกลับมา
2 วิธีนี้ มักจะเพียงพอในการรักษาให้ใบหน้าดูเด็กลงได้ในทุกช่วงวัย แต่สิ่งที่สำคัญ คือ การดูแลหลังการรักษา การใช้ Skincare ที่เหมาะสมเป็นประจำ หรือ ทำ Treatment เพื่อบำรุงผิว จะช่วยให้ผิวกระชับสุขภาพดีอยู่กับเราได้ยาวนานที่สุดค่ะ