คนส่วนใหญ่ทาครีมกันแดดผิดมาตลอด ส่งผลให้มีความเสี่ยงในการเกิดปัญหาผิวต่างๆ เช่น ฝ้า กระ จุดด่างดำ จนถึงมะเร็งผิวหนัง วิธีการทาครีมกันแดดที่ถูกต้อง จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด
รู้จัก ประเภทของครีมกันแดด
- ครีมกันแดดเคมี (Chemical Sunscreen) ทำงานโดยการดูดซับรังสียูวีและเปลี่ยนให้เป็นความร้อน ซึ่งจะถูกขับออกจากร่างกาย ครีมกันแดดเคมีมีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น ครีม โลชั่น สเปรย์ เจล และเนื้อสัมผัสบางเบา เหมาะกับทุกสภาพผิว
- ครีมกันแดดฟิสิกัล (Physical Sunscreen) ทำงานโดยการสะท้อนรังสียูวีออกไปจากผิว มีส่วนผสมของสารกันแดดจากแร่ธาตุ เช่น ไททาเนียมไดออกไซด์ (Titanium Dioxide) และซิงค์ออกไซด์ (Zinc Oxide) ซึ่งจะปรากฏเป็นสีขาวเมื่อทาลงบนผิว เหมาะกับผิวที่บอบบาง แพ้ง่าย และผิวที่เป็นสิว
ครีมกันแดดแบบผสม (Hybrid Sunscreen)
เป็นครีมกันแดดที่ถูกพัฒนาขึ้น โดยนำเอาจุดเด่นของกันแดดทั้ง 2 ชนิดมารวมกัน สามารถปกป้องผิวจากรังสียูวีได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่อาจมีราคาที่สูงกว่า
วิธีการทาครีมกันแดดที่ถูกต้อง นอกจากเลือกที่เหมาะกับผิวแล้ว ปริมาณที่ทาต้องไม่น้อยเกินไป
วิธีทาครีมกันแดดที่ถูกต้อง
5 ข้อง่ายๆ ของการทาครีมกันแดดให้ถูกต้อง
- เลือกครีมกันแดดเนื้อทึบ จะปกป้องผิวได้ดีกว่า
- ทาก่อนออกแดด 15-20 นาที หลังทาจะกันได้ไม่เกิน 2-3 ชม.
- เน้นที่ป้องกัน UVA / UVB เพราะเป็นตัวการที่ทำร้ายผิว
- ทาปริมาณอย่างน้อย 2 ข้อนิ้ว ถ้าไม่ได้ออกแดดจัด
- ทาปริมาณ 2 นิ้วมือ ถ้าออกแดด จึงจะเพียงพอที่จะป้องกันไม่ให้ผิวคล้ำเสียได้
นอกจากนี้ ควรทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวันก่อนออกแดดอย่างน้อย 15-20 นาที และทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมง หรือบ่อยกว่านั้นหากเหงื่อออกหรือว่ายน้ำ
หลังทาครีมกันแดด จะมีผลป้องกันได้ 2-3 ชม. เท่านั้น
ทาครีมกันแดด อยู่ได้กี่ชั่วโมง
- ครีมกันแดดโดยทั่วไป อยู่ได้ประมาณ 2-3 ชั่วโมง
- ควรทาครีมกันแดด ซ้ำทุก 2 ชั่วโมง หรือบ่อยขึ้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ
- ควรทาครีมกันแดดทุกวัน แม้จะอยู่ในร่ม
- ควรเก็บครีมกันแดดไว้ในที่ร่ม อุณหภูมิห้อง ไม่ให้โดนแสงแดดโดยตรง
ปัจจัยในการเลือกครีมกันแดด
การเลือกครีมกันแดดควรพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ ดังนี้
- สภาพผิว หากมีผิวแพ้ง่าย ควรเลือกครีมกันแดดที่มีส่วนผสมที่อ่อนโยน ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้
- กิจกรรมที่ทำ หากต้องเผชิญกับแสงแดดจ้า ควรเลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงๆ และกันน้ำกันเหงื่อได้
- บริเวณที่ต้องการทา หากต้องการทาครีมกันแดดบริเวณใบหน้า ควรเลือกครีมกันแดดสำหรับผิวหน้าโดยเฉพาะ
แสงแดด เป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดฝ้าโดยตรง
จะเกิดอะไรถ้าไม่ทาครีมกันแดด
รังสีจากแสงแดด ที่ส่งผลเสียต่อผิวเรามากที่สุด 2 ชนิด ได้แก่
- รังสียูวีบี (UVB) เป็นรังสีที่มีความยาวคลื่นสั้น ทะลุผ่านชั้นผิวหนังกำพร้าและชั้นหนังแท้ชั้นบนได้ ทำให้เกิดอาการผิวไหม้แดด ฝ้า กระ จุดด่างดำ และเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งผิวหนัง
- รังสียูวีเอ (UVA) เป็นรังสีที่มีความยาวคลื่นยาว ทะลุผ่านชั้นผิวหนังกำพร้าและชั้นหนังแท้ทั้งหมดได้ ทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย ผิวเหี่ยวย่น และความเสื่อมสภาพของผิว
ใบหน้าที่ถูกแสงแดดด้านเดียว มาตลอด 28 ปี จากการขับรถบรรทุก
นอกจาก ความหมองคล้ำ ฝ้า เม็ดสี จะเห็นว่าแสงแดดมีผลทำลายคอลลาเจน ผิวยืดหยุ่นน้อยลง ส่งผลให้ผิวเหี่ยวย่นก่อนวัยได้
สรุปวิธีทาครีมกันแดด
คนส่วนใหญ่มักทาครีมกันแดดน้อยเกินไป จึงไม่สามารถป้องกันรังสีจากแสงแดดได้อย่างมีประสิทธิภาพ รังสี UV จะทะลุผ่านครีมเข้าสู่ผิวของเราได้ สำหรับใบหน้า ควรทาไม่น้อยกว่า 2 ข้อนิ้วเป็นอย่างน้อย หรือ 2 นิ้วมือสำหรับการออกแดดจัด และทาซ้ำทุก 2-3 ชม. หากต้องอยู่ในที่แจ้ง เพื่อผิวที่สวย และสุขภาพที่ดีค่ะ