เหนียง (Double Chin) เป็นเสมือนส่วนเกินของหน้าที่ไม่มีใครอยากมี เหนียงเกิดจากการสะสมของไขมันบริเวณใต้คาง นอกจากนี้อายุที่เพิ่มขึ้นก็มีส่วนทำให้เกิดเหนียงได้เช่นกัน
» สรุปเนื้อหาสำคัญ
- เหนียงเกิดจากการสะสมของไขมันใต้คาง ซึ่งอาจเกิดจากน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น พันธุกรรม อายุที่มากขึ้น หรือผิวหย่อนคล้อย นอกจากนี้ การขาดการดูแลผิวอย่างเหมาะสม เช่น การก้มหน้าเล่นโทรศัพท์เป็นเวลานาน ก็มีส่วนทำให้เกิดเหนียงได้เช่นกัน
- การลดน้ำหนัก เป็นวิธีหลักในการลดเหนียง เนื่องจากแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ หากต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็วขึ้น สามารถใช้เครื่องมือทางการแพทย์เสริม เช่น การฉีดสลายไขมันเฉพาะจุด (FAT) หรือเทคโนโลยีคลื่น RF (Radio Frequency) เพื่อกระชับผิวได้
เหนียง เกิดจากอะไร?
- น้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น การสะสมของไขมัน
- พันธุกรรม
- อายุที่มากขึ้น
- ผิวหย่อนคล้อย เสียความยืดหยุ่น ผิวจึงตกลงใต้คาง
นอกจากนี้การขาดการดูแลผิวอย่างเหมาะสมก็ทำให้เกิดเหนียง และเส้นใต้คางได้เช่นกัน เช่น การนอนเล่นมือถือในท่าที่ต้องก้มหน้าเป็นเวลานาน เป็นต้น
สาเหตุหลักของเหนียง คือการสะสมของไขมันใต้คาง
ลดเหนียง โดยการลดน้ำหนัก
การลดน้ำหนัก เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการลดเหนียง เพราะเป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ โดยการลดน้ำหนัก ไม่จำเป็นต้องออกกำลังกาย แต่ให้เน้น “การคุมอาหาร”
- ลดการบริโภคอาหารจำพวก แป้ง – น้ำตาลที่สูง
- เน้นการทานโปรตีน เช่น ไก่ และปลา
- เลือกทานไขมันที่ดีต่อสุขภาพ เช่น น้ำมันมะกอก อะโวคาโด และถั่ว
- งดการกินจุกจิกระหว่างมื้อ
มีคนไข้หลายท่านมาปรึกษาเรื่องการ ฉีด FAT เพื่อลดเหนียง แต่หลังจากเข้าโปรแกรมลดน้ำหนัก ผลปรากฎว่า 1 เดือนผ่านไป เหนียงของคนไข้ลดลงจนไม่มีให้ฉีด จึงแนะนำว่า หากต้องการลดเหนียง ควรพิจารณาการลดน้ำหนักเป็นอันดับแรก จะได้ประโยชน์สูงสุด
อีกสาเหตุของเหนียง คือ ความหย่อนคล้อยของผิวตามวัย ทำให้การพยุงตัวลดลง และตกลงมาใต้คาง
ลดเหนียง โดยเครื่องมือแพทย์
ในการแพทย์ด้านความงามปัจจุบัน มีตัวช่วยในการลดเหนียงได้มากมาย เช่น
แนะนำโปรแกรมลดเหนียงด้วยคลื่น RF ไม่ต้องฉีด FAT
สรุป วิธีการลดเหนียง
เหนียงเกิดจากการสะสมของไขมันบริเวณใต้คาง ดังนั้น การลดน้ำหนัก หรือคุมอาหาร จึงเป็นการลดเหนียงที่ต้นเหตุ ในการลดเหนียงด้วยวิธีต่างๆ สามารถทำหลายวิธีควบคู่กันไปได้ เช่น การฉีด FAT ร่วมกับการทำ Ultherapy เป็นต้น