เลือกหน้า

วิธีลดต้นแขนใหญ่ จากไขมันสะสมเร่งด่วนภายใน 1 เดือน

ต้นแขนใหญ่ ไขมันเยอะ ปัญหากวนใจที่ทำให้หมดความมั่นใจเวลาใส่เสื้อผ้าโชว์แขน บทความนี้เรามาเจาะลึกสาเหตุของต้นแขนใหญ่ พร้อมเผยวิธีลดต้นแขนแบบเร่งด่วน ที่ช่วยให้เรากลับมามั่นใจในรูปร่างได้อีกครั้ง ภายใน 1 เดือนค่ะ

สาเหตุของต้นแขนใหญ่ เกิดจากอะไร?

ต้นแขนใหญ่ เกิดได้จากหลายปัจจัย โดยสาเหตุหลักๆ มักมาจาก

  • พันธุกรรม จะเห็นได้ว่าบางคนแม้จะผอม แต่ก็อาจมีต้นแขนที่ใหญ่ เนื่องจากพันธุกรรมที่ทำให้มีแนวโน้มสะสมไขมันบริเวณต้นแขน มากกว่าส่วนอื่นๆ ของร่างกายค่ะ
  • การรับประทานอาหาร ในกลุ่มอาหารที่มีพลังงานสูง และขาดการออกกำลังกาย ทำให้ร่างกายสะสมไขมันส่วนเกิน โดยเฉพาะบริเวณต้นแขน เป็นสาเหตุให้แขนใหญ่ได้ค่ะ
  • การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ช่วงวัยหมดประจำเดือน ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลง ส่งผลให้ร่างกายมีแนวโน้มสะสมไขมันมากขึ้น รวมถึงบริเวณต้นแขน
  • ออกกำลังกาย หรือยกของหนัก ส่งผลให้ร่างกายมีกล้ามเนื้อแขนชัดเจนขึ้น แต่โดยปกติแล้วผู้หญิงจะแขนใหญ่จากการออกกำลังกายได้ยากค่ะ เนื่องจากฮอร์โมน และความหนาแน่นของกล้ามเนื้อที่ต่างจากผู้ชาย

ต้นแขนใหญ่จากไขมัน หรือกล้ามเนื้อแยกอย่างไร?

เปรียบเทียบต้นแขนใหญ่จากไขมัน และกล้ามเนื้อ

ส่วนมากปัญหาต้นแขนใหญ่มักเกิดจากไขมัน วิธีดูคือ ให้ใช้มือจับบริเวณท้องแขนค่ะ ถ้าต้นแขนใหญ่แบบนิ่มๆ ย้วยๆ แบบนี้เกิดจากไขมัน ซึ่งมักตามมาด้วยปัญหาแขนย้วย แขนหย่อน ไม่กระชับ แต่ถ้าใหญ่แบบจับแล้วแข็งๆ เฟิร์มๆ ลักษณะนี้จะเป็นกล้ามเนื้อค่ะ

นอกจากนี้ การลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้แขนย้วยได้ เพราะผิวหนังที่เคยขยายตัว ไม่สามารถหดตัวกลับคืนได้ทัน ทำให้เกิดความหย่อนคล้อย

การออกกำลังกายเพื่อลดต้นแขน

ควรเน้นการ ออกกำลังกายที่ใช้กล้ามเนื้อแขนเป็นหลัก เช่น การยกเวท วิดพื้น ว่ายน้ำ หรือเล่นโยคะ ควรเลือกน้ำหนักเวทที่เหมาะสม ไม่หนักหรือเบาจนเกินไป เริ่มจากน้ำหนักที่ยกได้ประมาณ 10-15 ครั้ง แล้วจึงค่อยๆ เพิ่มน้ำหนักขึ้นเมื่อร่างกายแข็งแรงขึ้น

การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ เช่น การวิ่ง ปั่นจักรยาน หรือเต้นแอโรบิก ก็ช่วยเผาผลาญไขมันทั่วร่างกาย รวมถึงไขมันบริเวณต้นแขนด้วย ควรออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาทีต่อครั้ง สัปดาห์ละ 3-5 ครั้ง ควบคู่กับการควบคุมอาหาร และพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

ข้อจำกัดของการลดต้นแขนด้วยการออกกำลังกาย

การออกกำลังกาย ไม่สามารถลดไขมันแบบเจาะจงเฉพาะต้นแขนได้ เพราะเวลาที่ไขมันในร่างกายลดลงจากการลดน้ำหนัก จะลดลงแบบเฉลี่ยทั่วทั้งร่างกาย โดยแต่ละคนจะลดต่างกันไป แต่การยกน้ำหนักจะทำให้กล้ามเนื้อแขนดูเฟิร์ม กระชับเข้ารูป แขนจึงดูเล็กลงนั่นเองค่ะ

การลดต้นแขนด้วยวิธีเร่งด่วน

การลดต้นแขนด้วยการออกกำลังกายอาจเห็นผลได้ช้า ปัจจุบันวิธีทางการแพทย์มีหลายวิธีที่สามารถลดต้นแขนได้อย่างตรงจุด เช่น

  • การฉีดเมโสแฟต (Meso FAT)

การฉีดเมโสแฟต จะเหมาะกับผู้ที่มีไขมันสะสมไม่มาก ช่วยสลายเซลล์ไขมันส่วนเกินบริเวณต้นแขนโดยตรง ทำให้ต้นแขนเล็กลง โดยไขมันที่สลายไปจะถูกขับออกจากระบบขับถ่ายของร่างกาย โดยทั่วไปจะเริ่มเห็นผลภายใน 1-2 สัปดาห์หลังการฉีด และชัดเจนใน 2-3 เดือนค่ะ

แต่มีข้อควรระวังคือ ผิวอาจมีอาการบวมแดง ผิวเป็นคลื่น เป็นก้อนแข็ง หรือผิวหนังยุบตัวหลังจากที่ฉีดได้ ดังนั้นควรเลือกฉีดกับคลินิก หรือสถานพยาบาลที่ได้มาตรตฐาน ใช้ตัวยาที่มีคุณภาพค่ะ

แขนใหญ่จากกล้ามเนื้อ ลดได้ด้วยการฉีดโบท็อกซ์

แขนใหญ่จากกล้ามเนื้อ ลดได้ด้วยการฉีดโบท็อกซ์

  • การฉีดโบ ลดกล้ามเนื้อต้นแขน

วิธีนี้จะเหมาะกับผู้ที่แขนใหญ่จากกล้ามเนื้อเท่านั้นค่ะ การฉีดโบ จะช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัว มีขนาดที่เล็กลงได้ประมาณ 10 – 20% เริ่มเห็นผลหลังฉีดประมาณ 2-3 เดือน

  • ลดต้นแขนด้วยการนวด RF (Radio-Frequency)

Robolex RF นวดสลายไขมันต้นแขน

Robolex RF นวดสลายไขมันต้นแขน

คลื่น RF (Radio-Frequency) เป็นเทคโนโลยีที่ใช้พลังงานคลื่นวิทยุในช่วงความถี่ 0.3-0.5 MHz ซึ่งมีความปลอดภัยสูง เข้าไปทำให้เกิดความร้อนสะสมลึกถึงชั้นไขมันใต้ผิวหนัง กระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจน ช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือด และระบบน้ำเหลือง ผิวจะเฟิร์มกระชับขึ้น

คลื่น RF นิยมใช้ในการดูแลผิวหลังผ่าตัด คุณแม่หลังคลอด หรือกระชับผิวแบบเจาะจงแต่ละบริเวณ ช่วยลดผิวเปลือกส้ม และปัญหาผิวเป็นคลื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพค่ะ

  • ลดต้นแขนด้วยเครื่องสลายไขมัน WarmSculpting

SlimSure Slimus เลเซอร์สลายไขมันด้วยความร้อน

การสลายไขมันต้นแขนด้วยเลเซอร์ เครื่องมือเฉพาะทางการลดไขมันตามร่างกาย

การทำ WarmSculpting สลายไขมันต้นแขน เป็นการใช้ความร้อนเข้าไปสะสมใต้ชั้นผิวหนัง โดยใช้เวลาเพียง 25 นาที เมื่อเซลล์ไขมันถูกความร้อนสะสม จะเกิดการช็อค และสลายตัวไปตามธรรมชาติ  (ประมาณ 20-25% หลังทำ 1 ครั้ง) ร่างกายจะขับไขมันที่ตายแล้วออก โดยใช้เวลาประมาณ 3-4 สัปดาห์ ชัดเจนสุดใน 3 เดือนหลังทำ

การสลายไขมันด้วยความร้อนมีผลข้างเคียงที่น้อยมาก ไม่เกิดแผล ไม่ต้องดูแลอะไรเป็นพิเศษ หลังทำไม่เกิดปัญหาผิวช้ำ และยังช่วยให้ผิวเฟิร์มกระชับขึ้นจากความร้อน สามารถทำได้หลายบริเวณ เช่น ต้นแขน หน้าท้อง รอบเอว ต้นขา เหมาะกับผู้ที่มีไขมันสะสมปานกลาง มีค่า BMI ไม่เกิน 30 ค่ะ

การลดต้นแขน ใช้ระยะเวลาเท่าไหร่?

ขึ้นอยู่กับวิธีการ ปริมาณไขมันสะสม และความสม่ำเสมอในการดูแลตัวเอง โดยทั่วไป การควบคุมอาหาร และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ จะเริ่มเห็นผลลัพธ์ภายใน 4-6 สัปดาห์ ส่วนการใช้บริการทางการแพทย์ อาจเห็นผลลัพธ์เร็วกว่า ภายใน 2-4 สัปดาห์

ผลการลดต้นแขนด้วย slimsure

การลดขนาดต้นแขน ด้วยเทคโนโลยีความร้อน

ไขมันต้นแขนเยอะมาก ควรลดอย่างไร?

กรณีที่มีไขมันต้นแขนเยอะ และมีค่า BMI ที่ใกล้เคียง หรือมากกว่า 30 ขึ้นไป ควรเน้นที่ การลดน้ำหนัก หรือ ปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหาร ก่อนเป็นอย่างแรกค่ะ

  • หากเราลดน้ำหนักลงได้ประมาณ 10% จะช่วยให้ไขมันสะสมโดยรวมลดลง รวมถึงมีขนาดต้นแขนที่เล็กลงได้ไปพร้อมกัน
  • หากน้ำหนักลดลงแล้วต้นแขนยังใหญ่อยู่ แนะนำให้ใช้เครื่องมือต่างๆ เพื่อเสริมให้การลดต้นแขนมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นค่ะ

สรุปการลดต้นแขน แก้ปัญหาแขนใหญ่

การลดต้นแขนให้ได้ผลระยะยาว หมอแนะนำให้ใช้หลายวิธีผสมกันค่ะ เราอาจใช้เครื่องมือในการสลายไขมันต้นแขน ร่วมกับการออกกำลังกาย คุมอาหาร หากทำได้ตามนี้ภายในเวลา 1 เดือน จะทำให้ปริมาณไขมันต้นแขนลดลง บวกกับกล้ามเนื้อต้นแขนที่เฟิร์ม กระชับขึ้น ช่วยให้ต้นแขนมีขนาดที่สมส่วน สวมเสื้อผ้าได้อย่างมั่นใจมากยิ่งขึ้นค่ะ

Robolex RF นวดสลายไขมันต้นแขน

บทความอ้างอิงการลดต้นแขนทางการแพทย์

Non-invasive fat removal: What can you expect? โดย American Academy of Dermatology
Fat Removal for Arms โดย Michelegreen md
A Non-Surgical Option for Arm Contouring โดย Jacobson plastic surgery

พ.ญ.ณิชากุล แก้วกิตติคุณ
WRITTEN BY

พญ.ณิชกุล แก้วกิตติคุณ (หมอนิว)
M.D. Faculty of Medicine, Mahidol University,
MSc. Clinical Dermatology, St. John Institute of  Dermatology,
King’s College London
รู้จักคุณหมอเพิ่มเติม

เผื่อคุณพลาดอะไรไป